หากเอ่ยถึงใบชา ชาร้อน หรือชานม ชาไข่มุก ฯลฯ สารพัดชา ที่ฟังแล้วรู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาทันที ยิ่งหากอากาศร้อน ๆ ก็อาจทำให้นึกถึงชานมเย็นที่มีทั้งรสชาติหวาน ๆ ดื่มแล้วรู้สึกชื่นใจไม่น้อย หากเป็นหน้าหนาวก็ต้องนึกถึงชาร้อน ๆ ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับคอน้ำชาแล้ว คงจะต้องมีชาใบโปรดติดอยู่กับบ้านสำหรับนำมาดับกระหายได้ทุกเมื่ออย่างแน่นอน เพราะว่ากันว่าการได้ดื่มชาแทนการดื่มน้ำจะช่วยส่งผลต่อร่างกายในทางที่ดีขึ้น ส่วนใครที่ยังไม่มีความรู้เรื่องชา และอยากจะลองหาใบชามาไว้ติดบ้านเผื่อได้ซดร้อน ๆ กับการปล่อยอารมณ์แบบชิลๆ เรามีข้อมูลเล็ก ๆน้อย ๆ ของเหล่าใบชาพร้อมกับวิธีชงชาอย่างไรให้อร่อย??? มาฝากกัน!!
ชาเขียว
ชาเชียว (Green Tea) ถือได้ว่าเป็นยอดอ่อนของชาที่ถูกนำไปอบให้แห้งทันที โดยไม่มีการหมัก ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้ใบชาทำปฏิกิริยากับออกซิเจน (ออกซิเดชัน) ทำให้ได้ใบชาที่ยังมีสีเขียว พร้อมกับมีกลิ่นและรสชาติใกล้เคียงใบชาธรรมชาติมาก
ชาดำ
ชาดำ (Black Tea) เป็นยอดอ่อนของชาที่ถูกนำมานวดอย่างเต็มที่จากนั้นทำการหมักจนได้กลิ่นหอม ๆ ก่อนนำไปอบให้แห้ง ซึ่งจะส่งทำให้ได้ใบชาสีเข้มและมีรสขมปนฝาดกว่าชาเขียว เพราะปฏิกิริยาทางเคมีของสารแทนนินในใบชา
ชาแดง หรือ ชาอูหลง
ชาอูหลง หรือ ชาแดง (Red Tea or Oolang) เป็นการนำยอดอ่อนของชาที่ถูกนำมานวดพอให้ผิวนอกช้ำ เพื่อเป็นการกระตุ้นสารแทนนิน แล้วค่อยนำมาอบให้แห้ง เพื่อหยุดยั้งปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้สีและรสของชาแดงจึงอยู่กึ่งกลางระหว่างชาดำกับชาเขียว ซึ่งเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน
ชาขาว
ชาขาว (White Tea) หรือ หยินแชน (เข็มเงิน) สามารถเก็บได้เฉพาะช่วงเวลา 2-3 วัน ในแต่ละฤดูใบไม้ผลิในช่วงที่ช่อสีขาวของต้นชาเพิ่งจะผลิออกมา เพราะชาขาวคือใบชาที่อ่อนที่สุด และยังปกคลุมด้วยปุยขนอ่อนสีขาวเท่านั้น เมื่อเก็บแล้วจะนำไปตากแห้งจากแสงอาทิตย์ธรรมชาติ
เคล็ดลับการชงชา ชงชาไม่ให้เกิดโทษ
หลักการชงชาเบื้องต้น คือ ไม่ควรแช่ใบชานานเกินไป เพราะตามปกติเรามักจะใส่ชาเติมน้ำร้อนแล้วก็แช่ทิ้งไว้ทั้งวัน ประมาณว่าอยากดื่มเมื่อไหร่ก็รินน้ำชาใส่แก้ว แล้วก็ดื่ม หากน้ำชาไม่อุ่นก็เติมน้ำร้อนให้อุ่นขึ้นใช่ไหม? วิธีการเหล่านี้มีส่วนทำให้หลายคนหันมาดื่มชาแล้วรู้สึกว่าท้องผูก หรือ เกิดอาการตาค้างนอนไม่หลับ เพราะการแช่ชานานเกินไป จะส่ง ผลทำให้สารอย่างพวกแทนนิน หรือคาเฟอีน มีปริมาณมากเกินไป ซึ่งจากการเรียนรู้จากคนรุ่นก่อนอาม้าอากง ทำให้มีการค้นพบว่า เมื่อมีการแช่ชาในน้ำร้อนนานเกินไป หากเป็นการแช่ชาเข้มๆ จะมีสารแทนนินออกมาในปริมาณมากพอที่ จะไปฆ่าเชื้อโรคที่ส่งผลทำให้คุณท้องเสียได้ อาการท้องเสียก็จะหยุดไปเมื่อคุณทานชาเข้มๆ นั่นเอง การชงชาให้ถูกวิธีและดื่มชาให้ถูกกับเวลา ก็จะทำให้การดื่มชามีแต่ประโยชน์อย่างแน่นอน
การชงชาให้อร่อย..ทำได้อย่างไร ??
เชื่อว่าหลายคนคงจะมีความคุ้นเคยในวิธีชงชาใบแบบเดิม ๆ ทำให้บางครั้งคุณอาจจะไม่ได้รับรสชาที่แท้จริง เพราะคิดว่าแค่ใบชาผ่านน้ำร้อน แช่ทิ้งไว้สักครู่ ไม่ว่าจะเป็นชาสำเร็จ หรือใบชาก็คงจะได้รสชาติของน้ำชากันแล้ว ซึ่งความจริงนั้นการชงชาแต่ละชนิดมีความลับเฉพาะที่แตกต่างจากหลักการเบื้องต้นไม่มากเท่าไหร่นัก แต่ก็มีความละเอียดอ่อนของตัวชาเอง ซึ่งการชงชาให้ได้รสอร่อยแบบง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณได้ทั้งประโยชน์และการประหยัด มีเคล็ดลับที่ไม่ยากเกินไป เราขอแยกตามวิธีการชงชาให้อร่อยมาฝากก็แล้วกัน
ขั้นตอนการชงชา
อาจใช้ชาต้งติ่งอูหลง, ชาอูหลงเบอร์ 12 หรือ ชาอูหลงก้านอ่อน , ชาสี่ฤดู และ ชาจาเป่าหลง หรือใบชาที่ชอบส่วนน้ำชงชาควรเป็นน้ำที่สะอาดหรือน้ำกรอง และควรต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่ใบชา 2-3ช้อนชา สำหรับกาน้ำชาประมาณ 150-200 CC. แล้วเติมน้ำร้อนลงในกา เพียงท่วมใบชาก่อนแล้วค่อยรินน้ำออกทันที แล้วหลังจากนั้นเติมน้ำร้อนให้เต็มกา แช่ไว้ประมาณ 1นาที รินน้ำชาออกจากกาให้หมดเพื่อดื่มในขณะที่อุ่น ๆ ไม่ควรแช่ทิ้งไว ส่วนใบชาที่ชงแล้วเมื่อรินน้ำออกหมด สามารถพักไว้ในกาได้โดยยังไม่ต้องเอาทิ้ง ซึ่งสามารถนำชาชุดนี้กลับมาใช้ชงได้อีก 3-4 ครั้ง แต่ควรจะชงภายใน 1 วัน
ทริคเด็ดของการชงชาให้อร่อย
- ใช้น้ำร้อนลวกใบชา และกาน้ำชา รวมทั้งอุปกรณ์ในการดื่มชาก่อนใช้ทุกครั้ง จะทำให้ได้ความอร่อยและความหอมของรสชามากยิ่งขึ้น และนี่ก็คือ การชงชาที่ถูกต้องอย่างมีศิลปะ เพื่อให้ได้อรรถรสของชาที่คุณค้นหา
- ชาแบบซองสำเร็จไม่ต้องแกว่ง ซึ่งมีอีกหลายคนไม่ทราบว่าต้องทิ้งระยะไว้นานเท่าไหร่ เพราะบางคนคนคิดว่าเมื่อเทน้ำร้อนลงไป ทิ้งไว้ 30 วินาที แล้วกระตุกถุงชา จะทำให้น้ำเริ่มเปลี่ยนสี ความจริงสิ่งที่คุณเห็นในแก้วชา มันก็เป็นแค่น้ำที่มีสีเหมือนชา แต่รสชาติยังไม่ใช่ชา เพราะการชงชาจะต้องใช้เวลาประมาณ 3 นาที จึงจะดึงรสชาติและคุณภาพจริง ๆ ออกมาได้ ที่สำคัญคือ ไม่ควรกระตุกซองชา แต่ควรปล่อยไว้นิ่ง ๆ แล้วรอจนกว่าจะครบ 3 นาที แค่นี้ก็จะทำให้คุณได้ชารสชาติอร่อยแน่นอน
- ควรเก็บใบชาไว้ในภาชนะที่มีผาปิดสนิท เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพของชา อีกทั้งไม่วางใบชารวมกับของที่มีกลิ่นแรง เพราะชามีสรรพคุณในการดูดซับกลิ่น และอาจทำให้รสชาติเพี้ยนได้